Attention!

อ่านก่อนนะ >> "กาลามสูตร" -- จะได้มีสติระวัง ไม่เผลอพลั้งหลงป่าเวลาอ่านบล็อกนี้ (^_^)

Sunday, May 15, 2016

คำตอบของ "ชีวิตที่ดี": Harvard Study of Adult Development

ยาว แต่นี่คือคำตอบของ "ชีวิตที่ดี "
....งานวิจัยที่นานที่สุดในโลก.....
" Harvard Study of Adult Development "

โดยผู้ริเริ่มโครงการวิจัยได้ติดตามศึกษา
ชีวิตของผู้ชายวัยรุ่น 2 กลุ่ม

กลุ่มแรก;
เป็นนักศึกษาชายปีที่ 2 ของมหาวิทยาลัยฮาวาร์ดจำนวน 268 คน ซึ่งมีคุณภาพชีวิตที่ดี ได้รับการศึกษาจากสถาบันที่มีชื่อเสียง

กลุ่มที่สอง;
เป็นชายวัยรุ่นอายุ 12 – 16 ปี ในตัวเมืองบอสตันจำนวน 456 คน ซึ่งเป็นกลุ่มที่เติบโตบนความลำบากและยากจน

ทุกๆ 2 ปี ทีมวิจัยจะให้ทั้ง 724 คนนี้
ทำแบบสอบถาม
เกี่ยวกับความพอใจในชีวิตพวกเขาไม่ว่าจะเป็นความพอใจในชีวิตการแต่งงาน
ความพอใจในหน้าที่การงาน
หรือความพอใจทางสังคม
และหลายครั้งที่ทีมวิจัยขอไปสัมภาษณ์พวกเขาถึงที่ห้องรับแขก
เพื่อถือโอกาสพูดคุยกับภรรยา
หรือลูกๆ หลานๆ ของพวกเขาด้วย

นอกจากนี้ทุกๆ 5 ปี จะมีการตรวจสอบสุขภาพพวกเขาทั้งรายงานทางการแพทย์
ผลการตรวจเลือด ผลการตรวจปัสสาวะ หรือแม้แต่ผลการ X-ray หรือ สแกนสมอง

โดยตลอดเวลาที่ทำการติดตาม
ทีมวิจัยได้เห็นพวกเขาเติบโตไป
ประกอบอาชีพต่างๆ

บ้างเป็นคนงานในโรงงาน บ้างเป็นทนาย บ้างเป็นช่างปูน บ้างเป็นหมอ
และมีคนหนึ่งเป็นประธานาธิบดีสหรัฐ

บางคนติดเหล้า
บางคนมีอาการทางประสาท
จำนวนไม่น้อยที่สร้างเนื้อสร้างตัว
จนสามารถไต่ระดับทางสังคมขึ้นมาได้

ขณะที่อีกจำนวนไม่น้อยเช่นกันที่เลือกทางเดินที่ตรงข้าม

ความมหัศจรรย์ของการวิจัยนี้คือ
เป็นงานวิจัยที่ยาวมากซึ่งมีไม่บ่อยนัก
ส่วนใหญ่มักจะเลิกไปภายใน 10-20 ปีเพราะผู้ถูกวิจัยไม่ยอมให้วิจัยต่อบ้าง
เงินทุนวิจัยหมดบ้าง  คนทำวิจัยหันไปทำเรื่องอื่น หรือเสียชีวิตไป

แต่ Harvard Study of Adult Development
กลับดำเนินมากว่า 75 ปีแล้ว โดยผู้ถูกวิจัยทั้ง 724 คนนั้น
เหลือชีวิตรอดแค่ 60 กว่าคนเท่านั้น
ซึ่งผู้เหลือรอดเกือบทั้งหมด
อยู่ในวัย 90 ปีขึ้นไป

แล้วอะไรบ้างที่บรรดานักวิจัยเรียนรู้จากเรื่องราวกว่า 70 ปีของ 700 กว่าชีวิต
ผ่านทางเอกสาร และข้อมูลเป็นหมื่นๆหน้า

พวกเขาเรียนรู้ว่า...
“ความร่ำรวย”
“ความโด่งดัง”
หรือ "การทำงานอย่างหนักหน่วง"

ไม่ใช่คำตอบของ
" การมีชีวิตที่ดี "
หรือ "สุขภาพที่ดี" เลยแม้แต่นิดเดียว

แต่เป็น “ความสัมพันธ์ที่ดี” ต่างหากที่นำมาซึ่ง "การมีชีวิตที่ดี"

“Good relationships keep us happier and healthier.”

ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด (Key Massage)

โรเบิร์ต บอกต่อว่า
พวกเขาได้เรียนรู้อีก  3 บทเรียนล้ำค่า ที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ (Relationship) คือ...

1. Connection is really good for us, loneliness kills.
คุณจำเป็นต้องมีความสัมพันธ์ที่ดี
กับคนรอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นคู่ครอง
เพื่อน ครอบครัว ญาติพี่น้องหรือสังคม ก็ตาม

ซึ่งความสัมพันธ์เหล่านี้จะทำให้คุณ
มีความสุขกว่า
แข็งแรงกว่า
และมีอายุที่ยืนยาวกว่า

ในทางกลับกันความเหงาและโดดเดี่ยวนั้นเป็นสิ่งอันตรายอย่างยิ่ง
เพราะมันจะทำให้คุณมีความสุขน้อยลง  ทำให้ร่างกายคุณเริ่มแย่ลงตั้งแต่วัยกลางคน สมองเสื่อมเร็วขึ้น และมีชีวิตสั้นกว่า

2. Quality is not Quantity.
มันไม่สำคัญที่ปริมาณ  หรือรูปแบบของความสัมพันธ์ เช่น "จะต้องแต่งงานเท่านั้น"  แต่เป็น “คุณภาพของความสัมพันธ์” ต่างหากที่จะเป็นตัวบ่งชี้

งานวิจัยชิ้นหนึ่ง ชี้ให้เห็นว่าความสัมพันธ์ที่ไม่ดีของสามีภรรยาจะส่งผลลบมากกว่า
การหย่าร้างที่เข้าใจกันเสียอีก

3. "Good relationships don’t just protect
our bodies they protect our brains."

ความสัมพันธ์ที่อบอุ่น มั่นคง ไว้ใจได้ พึ่งพาได้ ไม่เพียงแต่ช่วยให้มีสุขภาพกายที่ดีเท่านั้น ยังดีต่อสมองด้วย

ความสัมพันธ์ที่ดี
จะทำให้มีความทรงจำที่ดีและสมองยังคงใช้งานได้ดีอยู่

ซึ่งความสัมพันธ์ที่ดีในที่นี้ไม่ได้หมายถึงความสัมพันธ์ที่ราบรื่นสุดๆ ไม่ทะเลาะกันเลย
แต่เป็นความสัมพันธ์ที่รู้ว่า
เมื่อถึงเวลาที่ต้องการจริงๆ เราจะมีคนที่พึ่งพาได้

นั่นคือสิ่งที่
"โรเบิร์ต วาล์ดินเจอร์ " และทีมงานวิจัยของ ฮาวาร์ด ค้นพบ ซึ่ง โรเบิร์ต บอกว่า จริงๆแล้ว ผู้ถูกวิจัยเหล่านี้ในช่วงที่ยังเป็นวัยรุ่น
หรือเริ่มเป็นผู้ใหญ่ใหม่ๆนั้น ก็เชื่อเหมือนกับที่คนในยุคนี้ว่า
"ชื่อเสียง เงินทอง"
จะทำให้พวกเขา
"ประสบความสำเร็จและมีชีวิตที่ดี"

แต่ความจริงจากการศึกษากว่า 75 ปี กลับกลายเป็นว่า

คนที่ให้ความสำคัญกับ
"ความสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบข้าง" ต่างหาก คือ คนที่มีชีวิตที่ดีที่สุด

โรเบิร์ต ชวนคิดว่า...สิ่งที่ทำให้คนเรามองข้าม “ความสัมพันธ์ที่ดี ”แล้วหันไปใส่ใจกับ  "ชื่อเสียง เงินทอง" หรือ "หน้าที่การงาน"  อาจเป็นเพราะ...การมีความสัมพันธ์ที่ดีนั้นเป็นเรื่อละเอียดอ่อน ยากและไม่รู้จบ  แถมยังต้องได้รับการใส่ใจตลอดเวลา จนหลายคนเลือกจะ "ทำงานหาเงิน" อย่างเดียว

แต่...การเอาใจใส่ และการทำความสัมพันธ์ให้ดีไม่ได้ยากขนาดนั้น

แค่เงยหน้าจากจอมือถือ แล้วสบตาคนรอบตัวให้มากขึ้น หาอะไรใหม่ๆทำร่วมกันเพื่อให้ความสัมพันธ์ที่จืดจางกลับมามีสีสันอีกครั้ง

ทำอะไรง่ายๆ ที่ไม่ต้องเสียเงิน เช่น ชวนคนรักไปเดินเล่น หรือติดต่อญาติที่ไม่ได้เจอกันมานานแล้ว

เพราะชีวิตเรานั้น
"มาร์ก เทวน" บอกว่า...มันช่างสั้น แล้วก็สั้นเหลือเกิน

สั้นเกินกว่าที่จะมาโกรธกัน ทะเลาะกัน หรืออิจฉาริษยากัน ควรมีแต่เวลารักกันเท่านั้น
ซึ่งแค่นี้มันก็แทบจะไม่พออยู่แล้ว

นั่นคือสิ่งที่ "โรเบิร์ต วาล์ดินเจอร์ "
พูดใน speech ของเขา

สำหรับผู้ที่ภาษาอังกฤษ แข็งแรง
ควรจะเปิดดู clip นี้ มีประโยชน์มาก
https://www.ted.com/talks/robert_waldinger_what_makes_a_good_life_lessons_from_the_longest_study_on_happiness?language=enm
อ่านให้จบนะ
ถ้าทำได้ จะมีความสุขในการใช้ชีวิต.

Saturday, May 14, 2016

Thai Smile เที่ยวบิน WE10

สดๆร้อนๆเมื่อคืนที่ผ่านมา

♡♡♡บันทึกประสบการณ์จริง♡♡♡

12 พ.ค 59
20.51 น เขียนบนเครื่องบินของสายการบิน ไทยสมายล์

Thai Smile เที่ยวบิน WE10 ออกจากสุวรรณภูมิ 19.20 น ถึงอุดร 20.20 น

บินมาได้ 50 นาที(20.10 น) เสียงประกาศจากกัปตันว่า ไม่สามารถนำเครื่องลงทีสนามบินอุดรได้ เนื่องจากฝนตกหนัก ต้องทำการบินวน (Hold)บริเวณนี้เป็นเวลา 10 นาที... ผู้โดยสารทุกคนอยู่ในอาการรอคอยการนำเครื่องลง เวลาผ่านไป 35 นาที (20.45 น) เครื่องบินพยายามลดระดับเพื่อจะลงที่สนามบินอุดร แต่ด้วยเข้าใจว่าพายุฤดูร้อนกำลังเข้าอุดร เพราะขณะกัปตันบินวน( hold ) และลดระดับลงนั้น เครื่องบินเหมือนถูกโขยกอย่างแรงเป็นระยะๆถี่ๆ ผู้โดยสารทุกคนเริ่มกลัว แต่ทุกคนก็เงียบและรอดูว่ากัปตันจะตัดสินใจ จนวินาทีสุดท้าย กัปตันตัดสินใจนำเครื่องลงที่สนามบินอุดร เครื่องแอฟโพสต์ชิ่ง(approaching) ที่สนามบินอุดร เครื่องบินก็โดนโขยก กระแทกจากพายุอย่างแรง ผู้โดยสารบางท่านร้องไห้ บางท่านก็ปิดตา บางท่านก็กรี้ดร้อง ส่วนผมเอามือกำหลวงปู่ฝั้น อาจาโร แล้วอนิษฐานขอให้เที่ยวบินนี้ปลอดภัย ในขณะมองออกนอกหน้าต่างเครื่องบินจะเห็นไฟจากปีกเครื่องบินกระทบกับก้อนเฆมขนาดใหญ่ และเครื่องบินโดนโขยกและโดนกระแทกตลอดเวลา บรรยายกาศน่ากลัวมาก ไม่เคยเจอแบบนี้ในชีวิตมาก่อน หวาดเสียวมาก ขณะเครื่องบินกำลังเข้า ไฟนอล (Final)  รันเวย์ เครื่องบินยังโยกเยกอย่างแรง ถ้าให้ผมประเมิน ผมจะประเมินว่า เครื่องบินต้องเกิดอุบัติเหตุที่สนามบินอุดรแน่ เพราะดูอาการการจะนำเครื่องบินลง ณ วินาทีนั้น มันเป็นไปไม่ได้ ผ่านไป 3 วินาที กัปตันตัดสินใจเติมเครื่องสุด แล้วเชิดหัวขึ้น โกอะราว( Go around=เร่งเครื่องยนต์เชิดหัวแล้วบินต่อไป ) บินผ่านทะลุพายุเหนือสนามบินอุดร ผมเข้าใจได้เลยว่ากัปตันพยายามจะเอาเครื่องบินทะลุพายุที่เข้ามาบริเวณเหนือสนามบิน เครื่องเชิดหัวขึ้น เสียงเครื่องยนต์ทำงานเต็มที่ (เสียงเครื่อง 100%) กัปตันบินด้วยเครื่องยนต์ 100% เป็นเวลา 2-3 นาที ก็ผ่อนเครื่องยนต์ ณ วินาทีนี้เองที่ทำให้ผู้โดยสารรับรู้ได้ว่า เครื่องบินจะบินผ่านนาทีวิกฤตได้หรือเปล่า เพราะเสียงเครื่องยนต์เบาไปชั่วขณะ ขณะเครื่องบินกำลังบินเจาะก้อนเฆมขนาดมหึมา เพื่อไต่ระดับหนีพายุ เครื่องบินก็ยังโขยกเขยก โดนกระแทกจากพายุตลอด จนเวลาผ่านไปเกือบ 10 นาที กัปตันประกาศว่า จะต้องนำเครื่องไปลงที่จังหวัดขอนแก่น พอเสียงประกาศจบลงแค่นั้น เสียงปรบมือกันดังสนั่น เพราะผู้โดยสารคงจะคิดเหมือนกันว่า "รอด" แล้วละ บ้างก็ร้องออกมาว่า หัวใจจะวาย ส่วนผมเอง ก็โล่งอกไปด้วย...จนสุดท้ายกัปตันสามารถนำเครื่องบินลงที่
สนามบินขอนแก่นด้วยความปลอดภัย ณ เวลา 21.15  น...

เครื่องบินต้องเติมน้ำมันที่สนามบินขอนแก่น ช่วงนี้แอร์ไม่ให้ลงจากเครื่อง เพราะแอร์บอกว่า เติมน้ำมันเสร็จจะบินไปลงที่อุดรอีก ผู้โดยสารส่วนใหญ่คาดหวังว่า ไทยสมายล์จะมีรถไปส่งถึงอุดร เพราะทุกคนกลัวการต้องลุยพายุอีกครั้ง พอเติมน้ำมันเสร็จ แอร์โฮสเต็ทประกาศว่า เครื่องจะทำการบินไปที่อุดรอีกครั้งหนึ่ง ทุกคนก็หว้งว่าจะถึงอุดรด้วยความปลอดภัย

21.58 น เครื่องบินไทยสมายล์ WE10  ออกเทคออฟอกเดินทางไปที่อุดรอีกครั้ง ทุกคนก็มีความหวังว่าจะถึงที่ปลายด้วยความปลอดภัย....

จนเวลา 22.11 น เครื่องบินก้อต้องเจอสภาพอากาศเช่นเดิม คือ เจอพายุ เครื่องโขยกเขยกอีกครั้ง ผู้โดยสารทุกคนกลัวเหมือนเดิม มันก็น่ากลัวจริงๆ แสงไฟกระทบก้อนเฆมเห็นได้ชัดเลยว่า เครื่องบินโยกเยกอย่างแรงเช่นเดิม

22.13 น แอร์โฮสเต็ทประกาศว่า เนื่องด้วยสภาพอากาศที่สนามบินอุดรธานีไม่เอื้ออำนวยในการลงจอด ไทยสมายล์จึงมีความจำเป็นต้องบินกลับไปที่สนามบินสุวรรณภูมิ...ก้อยังดีที่บินไปลงที่ที่มันปลอดภัย ถึงจะเสียเวลาก็ตาม

22.50 น เครื่องก้อลงแตะพื้นสนามบินสุวรรณภูมิ ด้วยความปลอดภัย

☆☆☆แล้วผมจะกลับอุดร ยังไงต่อล่ะ บาดทีนี่ เห็นทีต้องนอนที่ กทม อีกคืน☆☆☆

ในไฟท์นี้ เดินทางร่วมกับ ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ท่านเสนีย์ จิตตเกษม และคุณประจวบ  ทองเย็น MD บริษัท อัลติเมท ทัวร์ จำกัด ลงเครื่องแล้วเรา(3 คน) คงจะมีเรื่องราวเล่าให้ลูกให้หลานฟังถึงการเผชิญโชดชะตาร่วมกัน...อย่างไม่มีวันลืม♡♡♡